สัมภาษณ์คุณแมวน้อยแห่งนาโกย่าเรื่องขนคุด

เคพีเคลียร์: คุณแมวน้อยฯ ช่วยเล่าประสบกาณ์ขนคุดให้เราฟังหน่อยได้ไหมครับ

แมวน้อยฯ: ตอนเด็กๆ อายุราว 7-8 ขวบ มีคนทักว่าแขนเป็นอะไร ด้วยที่เป็นเด็กเราแทบไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาเลยนะครับ ไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีตุ่มอะไรเลย พอเข้าสู่วัยรุ่นเราก็เริ่มสนใจร่างกายมากขึ้น แรก ๆก็คิดว่าเป็นสิวเหมือนคนอื่นๆ มันทำให้เสียความมั่นใจมาก โดยเฉพาะเวลาไปออกกำลังกายนี่รู้สึกคนมองว่าเราสกปรก ทั้ง ๆ ที่เราก็ดูแลความสะอาดเป็นอย่างดีครับ

เคพีเคลียร์: รู้ว่าเป็น ขนคุด ได้อย่างไรครับ

แมวน้อยฯ: ตอนอายุ 15-16 ลองไปหาหมอรักษาสิว เลยถามเรื่องตุ่มที่แขน หมอบอกว่าเป็น KP (มารู้ตอนหลังว่าคือ Keratosis pilaris) หมออธิบายว่ามันเป็นโปรตีนบนผิวหนังที่ปกคลุมรูขุมขน ทำให้ขนเส้นเล็กๆแทงออกมาไม่ได้ หมอให้ไปซื้อโลชั่นอะไรก็มาก็ได้ แล้วจะผสมยาใส่ลงไปให้ จำได้ว่าทาแล้วแสบยุบยิบๆ มากๆ เหมือนจะดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หายครับ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เริ่มรู้จักค้นคว้า หาข้อมูลเองทางเน็ท ก็รู้ไปอีกว่าอาการขนคุดมันเป็นกรรมพันธุ์ เหมือนกับเราผมหยิก จะไปยืดผมยังไง ผมที่ขึ้นใหม่มันก็หยิกอยู่ดี

เคพีเคลียร์: ยอมแพ้กับการรักษาเลยมั๊ยครับ

แมวน้อยฯ: เราก็ลองไปหาหมอที่ใหม่ ทันสมัยขึ้นมีการใช้ เลเซอร์กำจัดขน ด้วยสมมติฐานว่าถ้าไม่มีขนก็ไม่น่าจะมีตุ่มขนคุดอีก การทำเลเซอร์กำจัดขนคุดสมัยนั้นแพงมากๆ เพราะต้องยิงเลเซอร์ทั้งแขนสองข้างซึ่งเป็นพื้นที่ที่กว้างมาก คุณหมอก็บอกว่าไม่รับประกันผลลัพธ์นะครับ เพราะก็ไม่เคยมีรายงานยืนยันว่าจะรักษาได้แต่ก็ลองดูได้ เผื่อจะดีขึ้น และต้องมาทำซ้ำหลายครั้ง จำได้ว่าทำไป 5-6 แต่มันแพงและคิดว่าไม่สะดวกจะทำไปตลอด

ตอนนั้นก็ต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น จำได้ว่าช่วงอากาศหนาวๆ อาการขนคุดกำเริบหนักมาก เลเซอร์ที่ไปทำมาเป็นสูญเปล่าไปเลย

เคพีเคลียร์: รู้จัก kp-clear ได้อย่างไรเหรอครับ

แมวน้อยฯ: มีคนแนะนำว่าลองหาครีมหรือโลชั่นที่ช่วยผลัดผิวมาใช้ ในประเทศไทยหาซื้อยากมากเลยครับมีแต่กลุ่มwhitening ต้องสั่งจากอเมริกาจะเป็นโลชั่นที่มีกลิ่นแรงหน่อยราคาค่อนข้างสูง ต่อมาก็ไปเจอ kp-clear ทางเฟสบุคนี่แหละครับ เลยเข้าไปศึกษาคนมั่นใจถึงได้ทดลองใช้

เคพีเคลียร์: ถามตรงๆว่าดีขึ้นไหมครับ บอกกันตรงๆได้เลย

แมวน้อยฯ: จากที่ลองมาหลายวิธีสุดท้ายแล้วคิดว่าวิธีที่ทำได้เองที่บ้านในราคาที่เราจ่ายได้สบายๆไปตลอดดีกว่า และหลังจากที่ลองผลิตภัณฑ์มาหลายยี่ห้อ ทั้งในและต่างประเทศก็มาสรุปอยู่ที่ kp-clear นี่แหละครับที่ใช้มาตลอดหลายปี

เคพีเคลียร์: คิดว่าชอบแบรนด์ kp-clear ตรงไหนครับ

แมวน้อยฯ: ที่ทุกคนสนใจคือต้องเห็นผลครับ อันนี้ผมศึกษามาพอสมควรเลยเข้าใจว่าต้องใช้เวลา และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ต่อเนื่องระยะยาวได้ ที่สำคัญราคาสมเหตุผล ถ้าทางแบรนด์จะลดให้อีกหน่อยก็จะดีครับ 555 ผมมักจะรอช่วงเทศกาลตอนมีลดมีแถมแล้วตุนเยอะๆครับ อ่อ จากที่ลองมา kp-clear มีกลิ่นฉุนของ aha น้อยที่สุดละครับ ทาแล้วผิวชุ่มชื้นดี ผิวเนียนนุ่มขึ้นและยังมีคุณแอดมินที่คอยตอบคำถามจนสบายใจด้วยครับ

เคพีเคลียร์: มีอะไรอยากแนะนำคนอื่นที่เป็นขนคุดไหมครับ

แมวน้อยฯ: อย่าไปแกะครับ พอเป็นแผลแล้วรักษากันยาวเลย และไม่ว่าใช้วิธีไหนรักษาแนะนำว่าต้องมีวินัยทำไปเรื่อยๆ เพราะขนคุดไม่ใช่โรคผิวหนักแบบทายาแล้วหาย แต่เป็นสภาพผิว นี่ผมก๊อปคำแนะนำตอนแอดมินแนะนำผมมาเลยนะเนี่ย พออาการดีขึ้นแล้วเราจะมั่นใจขึ้นมากๆ มันมีผลทางใจจริงๆนะ

#ทางแวะไปอ่านรีวิวของคุณแมวน้อยฯ