top of page
รูปภาพนักเขียนKp-Clear Blog Team

Pantip Review พันทิพย์รีวิวเรื่องขนคุด


เครดิตคุณ แมวน้อยแห่งนาโกย่า ครับ ทาง Kp-Clear ได้ติดต่อขอนำบทความส่วนหนึ่งมาลงในบล๊อคแล้ว แนะนำว่าถ้าอยากดูภาพรายละอียดไปดูได้ที่ต้นทางครับ แอบกระซิบว่าคุณแมวน้อยแห่งนาโกย่าเป็นหนึ่งในลูกค้าคนแรกๆของเรา

ต้นฉบับอยู่ที่นี่ : http://pantip.com/topic/35663324

 

สวัสดีครับบบ วันนี้ขอมารีวิวการจัดการกับปัญหาคาใจที่อยากรีวิวมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือซะทีเพราะเหมือนข้อมูลไม่พอ หรือลองบางวิธีไปก็ไม่เวิร์ค บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่าขนคุดเป็นอย่างไร มันเป็นตุ่มเล็กๆ คล้ายๆ สิวแต่มักเล็กกว่า บางทีก็มีขนเส้นเล้กๆอยู่ข้างใน บ่อยครั้งก็อักเสบแดงๆคล้ายๆสิวเลยครับ แต่มักเกิดที่ลำตัว โดยเฉพาะแขนและขา โรคขนคุดไม่ใช่โรค(เอ๊ะ ยังงัย) แต่เป็นการที่ร่างกายคนนั้นสร้างชั้นผิวด้านนอกหนาและไปอุดตันรูขุมขน

จริงๆผมก็ไม่เคยสนใจครับ ไม่รู้ว่าเริ่มเป็นเมื่อไร แต่เริ่มรู้ตัวเมื่อไปว่ายน้ำกับแฟน แล้วเขาถามว่าแขนเธอเป็นอะไร ตอนนั้นเสียความมั่นใจมากๆ กลัวคนนึกว่าเราเป็นโรคอะไร เลยไปหาหมอที่คลินิคที่ห้างแถวบ้าน คำตอบที่ได้คือ เป็นขนคุด (หรือเรียกว่าเป็นหนังไก่ หรือ ชื่อฝรั่งว่า keratosis pilaris) หมอบอกว่ารักษาไม่ได้ เดี๋ยวโตขึ้นก็หายไปเอง(30 กว่าแล้วนะ ต้องโตอีกถึงไหน) แล้วก็ให้ moisturizer มาหลอดนึง ซึ่งไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไร จากนั้นเป็นต้นมาเลยหาวิธีรักษามาตลอด และได้ค้นพบว่า (จาก wiki) ว่าเรามีผู้ร่วมชะตากกรรมเยอะมากกว่าที่คิด เพราะมีรายงานของมาโยคลินิคว่าอาการนี้เป็นกันเยอะมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่น 50-80% และในวัยผู้ใหญ่ 30-50% ของประชากรเลยทีเดียว อย่างแรกเลยที่ได้ลองตามคำแนะนำของกูเกิลคือ sugar scrub (สูตรฝรั่ง)โดย ผสมน้ำตาลเม็ดสีน้ำตาลที่ยังไม่ขัดขาวกับน้ำมันมะพร้าวและน้ำผึ้ง แล้วขัดจุดที่เป็น

วิธีการ: สครับผิวด้วย sugar scrub ผล: หลักการคือขัดเซลล์ที่ตายแล้วชั้นนอกออกไป ลดโอกาสอุดตัน แต่ลองแล้วไม่เวิร์ค รู้สึกแสบๆแดงๆด้วย อาจจะเพราะขัดแรงไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้ทำต่อ เพราะขี้เกียจและเลอะเทอะมาก หลังจากนั้นเพื่อลดความเลอะเทอะเลยไปซื้อสครับสำเร็จรูปมาซึ่งมีวางขายหลากหลายยี่ห้อตามร้านขายยาสะดวกซื้อ ตอนใช้รู้สึกดีตอนสครับใช้เสร็จเหมือนผิวใสขึ้น แต่ขนคุดแทบไม่ดีขึ้นสำหรับผม วิธีการถัดมาคือสู้ด้วยทุนนิยมครับ ไปเข้าคอร์สเลเซอร์กำจัดขนแถวสยาม โดยลองแค่ที่ต้นแขนสองข้าง ที่อื่นเก็บไว้ก่อน ค่าใช้จ่ายประมาณ 12,000 จำได้ไม่แม่น ยิงสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ลงไป 2 คอร์ส หมอบอกว่าผลแล้วแต่คน และใช้เวลานานนะ (ขู่ไว้ก่อนเลย) และแนะนำว่าอย่าอาบน้ำอุ่น ผิวจะยิ่งแห้ง แล้วก็ห้ามพยายามไปขุดแกะตุ่มด้วย ผลก็คือ...

วิธีการ: เลเซอร์กำจัดขน Long pulse YAG

ผล: อาการตุ่มเหมือนจะดีขึ้นช่วงแรกๆ แต่พอผ่านมาซักพักผลที่ได้ก็หายไป โดยรวมแล้วดีขึ้นนิดหน่อยเพราะขนบางส่วนหายไป ทำให้เกิดขนคุดน้อยลงด้วย รอยแดงก็ลดลงครับ และอาจจะเพราะต้องทำต่อเนื่องยาวนานจนขนหมดไป cycle การขึ้นของขนนึงก็สามเดือน ขนจะลดลงในแต่ละ cycle ไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ กว่าจะหมดคงหมดตัว เลยไม่ได้ต่อคอร์ส แต่คุณหมอแนะนำอะไรดีๆมากมายมาย แถม v beam ที่หน้าให้ด้วย วิธีนี้ดูน่าจะได้ผลแต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ถ้าใครงบสูงหรือเป็นในจุดเล็กๆที่ sensitive เช่นที่ใบหน้าวิธีนี้น่าจะเหมาะขออภัยทำนานแล้วรูปไม่ได้ถ่าย แค้โดยสรุปแล้วเป็นผลเรื่องรอยแดงมากกว่าเลเซอร์ในระยะสองคอร์ส หลังจากยากจนจากการเลเซอร์ไปแล้ว ก็กลับไปทดลองภูมิปัญญาไทยด้วยการทดน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นครับ(ใช้ยี่ห้อ paradise จากซุปเปอร์มาเก็ตห้างดัง ยี่ห้ออื่นก็ไม่น่าต่างกันเพราะส่วนผสมเหมือนกันเป๊ะ) ทาจนคนรอบตัวถามว่าเอากะทิชาวเกาะทาตัวเหรอถ้าใครไปหาซื้อแล้วเห็นในขวดเป็นก้อนขาวๆอย่าตกใจ ทาตัวมันจะเหลวเองจากความร้อนของร่างกาย หรือไม่ก็เอาไปแช่น้ำอุ่นทั้งขวด มันจะกลายเป็นน้ำมันใสๆครับ

วิธีการ: น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ผล: ผิวชุ่มชื้นมาก รู้สึกว่าอักเสบแดงน้อยลง แต่ตุ่มๆเหมือนเดิม ไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลง แต่ลูบแล้วลื่นขึ้น ผิวดูดีขึ้นโดยรวม ถ้าเน้นวิธีการธรรมชาติ และไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวเป็นอย่างแรกที่เห็นผลครับ หลังจากผิดหวังจากน้ำมันมะพร้าวไปแล้ว(เก็บไว้ทาที่อื่น เอาไปทำอาหารก็ได้) เลยเริ่มอ่านข้อมูลในเน็ทมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และต้องหาทางผลัดชั้นเคราตินที่อุดตันออกไปให้ได้ ซึ่งต้องใช้พวกกรดผลไม้ AHA BHA ที่เข้มข้นหน่อย ว่าแล้วก็สั่งครีมที่ดังๆมาลอง ที่ลองไปมีทั้ง Amlactin, Gold bond, Glytone, Kp-clear มีข้อมูลทางวิชาการแตกต่างกันดังนี้…

Amlactin :Moisturizing body lotion จุดเด่น : ยี่ห้อดัง มีขนาดหลากหลายให้เลือก ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับของนอกทั่วไป หาซื้อได้ตามห้างในอเมริกา ในไทยก็มีหิ้วกันมาเยอะ ส่วนผสม: หลักๆเป็นกรดแลคติก (AHA) ตามชื่อยี่ห้อเลย การใช้งาน: บรรจุในขวดปั๊ม ทาแล้วแสบแปร๊บๆ โลชั่นสีขาวไม่มีกลิ่น จขกท ใช้หมด 1 ขวด14ออนซ์ Glytone :Step2 จุดเด่น: มีหลายสูตร ในเว็บมีชุด kit ที่มีสบู่เหลวด้วย แต่จขกทใช้แค่โลชั่น ราคาแพงมากพอสมควรในสายตาผม ส่วนผสม: ส่วนผสมหลักเป็นกรด Glycolic (AHA) ตามชื่อยี่ห้อเหมือนกัน การใช้งาน: บรรจุในขวดเหยาะขนาดเล็ก(แต่ไม่ถูก) เป็นโลชั่นเหลว สีขาวขุ่น เหลว กลิ่นเหมือนน้ำส้มสายชู ทาแล้วจะได้กลิ่นเหมือนเรามีเหงื่อ แต่คาดว่าพอใส่เสื้อผ้าทับน่าจะไม่น่าเกลียดอะไร ใช้หมด1ขวดเล็ก Gold Bond :Rough and Bumpy Skin จุดเด่น: ยี่ห้อไม่ดังมาก กลิ่นหอมจางๆถูกใจ จากส่วนผสมค่อนข้างอ่อนโยนเหมาะกับผิว sensitive ส่วนผสม: บรรจุในกระปุกครีม ส่วนผสมเป็น Gluconolactone (PHA) ซึ่งแตกต่างจากยี่ห้ออื่น (อ่านจากเว็บพบว่า กรดตัวนี้จะอ่อนโยนกว่าผิวมากกว่าตัวอื่นที่เป็นที่นิยมมากกว่า อาจจะเหมาะกับคนที่ผิว sensitive เป็นพิเศษ) นอกจากนั้นก็มี Salicylic เป็นตัวเสริมคล้ายๆ กับยี่ห้ออื่น ชื่อยี่ห้อไม่ค่อยสื่อ การใช้งาน: ขวดครีมทา เนื้อครีมสีทองจางๆ กลิ่นหอมจางๆถูกใจ ทาแล้วรู้สึกดี ใช้หมดกระปุก ถ้าใครกลัวว่าผิว sensitive เป็นพิเศษ หรือใช้ตัวอื่นแล้วระคายมากๆ ลองตัวนี้ดูอาจจะเหมาะ Kp-Clear : Lotions for keratosis pilaris จุดเด่น: ซื้อได้สะดวกในไทย (ที่ไม่ใช่ของหิ้ว) มีจดแจ้งตามกฏ อ.ย. ยี่ห้อนี้เน้นสูตรเพื่อขนคุดตรงๆตามชื่อ ส่วนผสม: มีส่วนผสมหลักเป็น AHA คือกรดแลคติกและกรดไกลโคลิคทั้งคู่เลย และมีสารสกัดพืชเพื่อลดรอยแดงด้วย ยี่ห้อนี้ไม่ได้ตั้งชื่อตามส่วนผสมแต่ตั้งตามการใช้งานไม่งั้นอาจจะยาวน่าดู การใช้งาน: บรรจุในขวดสุญญากาศแบบกด มีขนาดเดียวให้เลือก เนื้อโลชั่นสีขาวไม่มีกลิ่น สรุปว่า วิธีการ: ทาครีมผลัดผิวเพื่อกำจัดชั้นเคราตินที่เป็นสาเหตุของอาการขนคุดออกไป ผล: รู้สึกว่าตุ่มลดลง ใช้ได้เลย ครีมหรือโลชั่นที่กล่าวมายังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นลดโอกาสการอักเสบ หรือลดอาการคัดที่ทำให้เราอยากไปเกาเพิ่มเติม และบางยี่ห้อช่วยเรื่องรอยแดงรอยดำด้วย *ผลที่ได้อาจจะไม่เหมือนกันแล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคนนะครับ ตอนนี้เริ่มจับทางได้แล้วครับ ว่าต้องรักษาอย่างไรบ้าง หลักคือต้องผลัดผิว ต้องรักษาความชุ่มชื้น กันแดด ต้องไม่อาบน้ำอุ่นไม่ทำอะไรรบกวนสุขภาพผิวโดยรวม ว่าแล้วก็เข้าสู่บทสรุปเลย สิ่งที่ต้องใช้มีดังนี้ครับ 1. สบู่เหลวแบบอ่อนโยน อาจจะใช้ Cetaphil หรือ Physiogel เพื่อการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน แนะนำให้ซื้อขวดใหญ่มาเลย ห้ามใช้สบู่ก้อนที่ อาจจะใช้สบู่รักษาสิวเช่น Acneaid ได้เช่นกัน พวกนี้จะมี Salicylic ซึ่งน่าจะเสริมการทำงานของครีมผลัดผิว สบู่พวกนี้มักให้ความรู้สึกว่าล้างไม่ค่อยออก 2. โลชั่นหรือครีมผลัดผิว ใครชอบยี่ห้อไหนก็เลือกกันมาซักอันนึงที่คิดว่าเหมาะกับสภาพผิวและกระเป๋าตังค์ตัวเอง ทาหลังอาบน้ำทันที เช้าเย็น 3. โลชั่นกันแดด เนื่องจากหลังจากผลัดผิวไม่ควรโดนแดดตรงๆ อันนี้ยี่ห้อไหนไม่สันทัด หยิบมั่วๆมาใช้เสมอ เริ่มด้วยการเลิกใช้น้ำอุ่น อาบน้ำใช้สบู่เหลวอ่อนๆ อาบเสร็จโบกโลชั่น รอซักพักให้ซึมเข้าไปก่อนค่อยตามด้วยซันสกรีนก่อนออกจากบ้านทุกวัน(วันปกติใส่เขนยาวไม่ได้ทา)

วิธีการ : ดูแลแบบผสมผสาน โดยการใช้สบู่เหลวที่อ่อนโยน และโลชั่น/ครีมผลัดผิวที่คิดว่ามีคุณสมบัติเหมาะกับผิวตัวเอง ตามด้วยกันแดด รวมถึงเลี่ยงน้ำอุ่นขณะอาบน้ำ ผล: ดูดีขึ้นมาก จากที่พยายามหาวิธีการมาตลอดตอนนี้รู้สึกว่าได้คำตอบแล้ว(เลยมาแชร์กับคนอื่น) ว่าจากนี้ไปคงดูแลรักษาผิวด้วย routine นี้ไปเรื่อยๆ ตอนนี้อาการดีขึ้นจนแทบไม่มีตุ่มแล้ว รอยแดงยังเห็นอยู่แต่ก็จางหายไปเยอะมากจนไม่รู้สึกเป็นปัญหาแล้ว (เริ่มขี้เกียจแล้วด้วย บางทีก็ลืมทำตามขั้นตอน 555) สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่าอาการขนคุดไม่หายขาด เหมือนสิวนั่นแหละที่ต้องรอให้มันหายไปเอง วงการแพทย์ก็ยังไม่แน่ใจว่าอะไรคือสาเหตุลึกๆที่ทำให้คนบางคนไม่ผลัดผิวด้วยตัวเอง ซึ่งมีคนแบบนี้อยู่เยอะเหมือนกับ โดยมากกว่าครึ่งของประชากรเคยเป็นทีเดียว แต่จะมากจะน้อยหรือจะสร้างปัญหาขนาดไหนคงแล้วแต่คน ผมเคยนั่งคุยกับคนที่มาทำเลเซอร์ด้วยกัน เป็นน้องผู้หญิงคนนึงที่เค้าทรมานใจมากไม่ใช่แค่รำคาญเหมือนผมเฉยๆ ถึงได้รู้ว่ามันทำให้บางคนเครียดมากเลยทีเดียว(น่าจะเป็นเยอะกว่าผม) จบละครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ ทั้งนี้อย่าคาดหวังว่าทำตามปุ๊บหายปั๊บ มันต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอครับ

bottom of page