ในปัจจุบัน "คอลลาเจน" ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทั้งประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง นอกจากจะพบคอลลาเจนอัดเม็ด บรรจุแคปซูล หรือแบบผงสำหรับชงดื่มแล้ว เรามักจะได้ยินว่ามีการผสมคอลลาเจนลงใน เครื่องดื่ม เช่น กาแฟ นมเปรี้ยว รังนก และผสมลงในเครื่องสำอางประทินผิวเช่น สบู่ โลชั่น ครีม และที่มากกว่านั้นมีการเติมคำสร้อยให้กับคอลลาเจนเพิ่ม เช่น คอลลาเจนทองคำ นาโนคอลลาเจน ซุปเปอร์คอลลาเจน สเต็มเซลล์คอลลาเจน แล้วคอลาเจนที่แท้จริงคืออะไร สามารถบำรุงผิวพรรณได้อย่างที่โฆษณาหรือไม่?? ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคอลลาเจนเป็นดังนี้ 1. คอลลาเจน คือ โปรตีนที่เป็นองค์ประกอบของผิวหนังของมนุษย์และสัตว์ ทำให้เกิดโครงสร้างที่ยึดหยุ่นและจะเริ่มเสียสภาพความยืดหยุ่นเมื่ออายุมากขึ้น เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น โปรตีนคอลลาเจนประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดเรียงต่อกัน โดยมากจะเป็นกรดอะมิโนชนิด Glycine, Proline และ Alanine (ลอกนึกถึงลูกปัดสีต่างๆ เรียงต่อกันเป็นสาย โดยมีลูกปัด 3 สี ที่มีสัดส่วนมากกว่าสีอื่นๆ)
2. โปรตีนทุกชนิด เมื่อผ่านระบบย่อยอาหารแล้วจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนและดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย (สลายกลายเป็นลูกปัดสีต่างๆ ) ดังนั้นไม่ว่าจะกินโปรตีนจากแหล่งใดๆ ก็ตาม ก็จะคละเคล้าและดูดซึมในรูปกรดอะมิโนทั้งสิ้น ซึ่งโปรตีนจากอาหารจึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบหมุนเวียนของร่างกายได้โดยตรง สิ่งสำคัญของการรับประทานโปรตีนคือ ต้องเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพ โดย มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน (กรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ ต้องรับประทานจากอาหารเท่านั้น) ซึ่ กรดอะมิโนชนิด Glycine, Proline และ Alanine ที่พบมากในคอลลาเจนนั้นจัดเป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น จึงกล่าวได้ว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนคุณภาพต่ำ และกรดอะมิโนจากอาหารที่ร่างกายดูดซึมแล้วไม่สามารถที่จะกลับไปเรียงต่อกันเป็นสายคอลลาเจนดังเดิมบนใบหน้าของเราได้ การสังเคราะห์คอลลาเจนที่ผิวหนังจะมากหรือน้อยขึ้นกับพันธุกรรมของแต่ละบุคคลที่กำหนดไว้แล้ว 3. โปรตีนทุกชนิดมีโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ ดังนั้นการผสมคอลลาเจนลงในสบู่ ครีม โลชั่น ย่อมไม่มีผลทำให้ผิวเกิดความกระชับ ลดริ้วรอยลงได้ จากการที่ผิวหนังดูดซึมคอลลาเจน เมื่อกระแสคอลลาเจนเริ่มถึงจุดอื่มตัว จึงมีการสร้างกระแสใหม่โดยการอ้างสรรพคุณของคอลลาเจนจากแหล่งต่างๆ (แต่เดิมคอลลาเจนสกัดจากหนังหมูหรือหนังวัว ) เป็นคอลลาเจนจากปลาทะเล (น้ำลึก) จากหอยเป๋าฮื้อ(สกัดเย็น) คอลลาเจนบริสุทธิ์(จากเกาหลี) คอลลาเจนทองคำ นาโนคอลลาเจน ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะในระดับโมเลกุลแล้วทุกอย่างมีขนาดเป็นนาโนเมตรทั้งสิ้น และไม่ว่าคอลลาเจนจะมาจากแหล่งใดก็ตามก็ล้วนแต่ “เหมือนกัน” ในเชิงโครงสร้างทางเคมี และ “เหมือนกัน” ในแง่ที่ (ไม่มี) ประสทิธิภาพ ในการบำรุงผิว อย่างไรก็ตามคอลลาเจนเป็นที่โมเลกุลที่ชอบอุ้มน้ำ การผสมคอลลาเจนในครีมทาผิวจึงผลได้เพียงทำให้ผิวแลดูชุ่มชื่นขึ้นเท่านั้น (ซึ่งผลลัพธ์นั้นอาจจะมาจากส่วนผสมอื่นๆ ในครีมด้วย) เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ยังคงจะยอมเสียเงินเพื่อกินคอลลาเจนต่อไปอีกหรื่อไม่ ?? อันนี้ย่อมแล้วแต่ความสบายใจของแต่ละท่าน หากรับประทานแล้วสบายใจและไม่กระทบการเงินย่อมไม่มีปัญหา หรือถ้าใช้ทาผิว อย่างน้อยยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เครื่องสำอางและอาการเสริมหลายยี่ห้อ นอกจากจะผสมคอลลาเจนเพื่อเรียกความสนใจจากผู้บริโภคแล้ว ยังมีส่วนประกอบอื่นๆที่มีประโยชน์จริง ฉะนั้นใช่ว่าใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี่แล้วจะไม่่เกิดประโยชน์เสียทีเดียวครับ เพียงแต่มิได้มีอะไรอัศจรรย์จากคอลลาเจนอย่างที่มักโฆษณาเท่านั้น ข้อมูลด้านบนเป็นสรุปจากข้อมูลทางวิชาการเท่าที่ทราบ หากท่านอื่นมีข้อมูลขัดแย้ง (ที่มาจากงานวิจัยจริงๆ) สามารถส่งเข้ามาพูดคุยกันได้ครับ